วงการบันเทิงโลกทั้งมวลต่างตื่นเต้นและเตรียมตัวรับอย่างสุดใจสำหรับการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของ เอนิโอ มอร์ริโคนี่ (Ennio Morricone) ปรมาจารย์แห่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ ซึ่งได้ฝากผลงานอันทรงคุณค่าไว้ในวงการภาพยนตร์ระดับโลกมากมาย
มอร์ริโคนี่ผู้เป็นขุนพลแห่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผลงานของเขาไม่ได้เพียงแค่สมบูรณ์แบบและลงตัวเท่านั้น แต่ยังทรงพลัง อึกอัด และเต็มไปด้วยอารมณ์ หากคุณเคยดูภาพยนตร์สเป็กแทคิวลา (Spaghetti Western) คลาสสิก เช่น “The Good, the Bad and the Ugly” หรือ “Once Upon a Time in America” คุณก็จะคุ้นเคยกับท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของมอร์ริโคนี่ ซึ่งช่วยสร้างอารมณ์และความตื่นเต้นให้แก่ภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม
การมาเยือนกรุงเทพครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลก “Ennio Morricone: The Final Farewell Tour” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม 2024 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แฟนเพลงชาวไทยจะได้มีโอกาสสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของดนตรีประกอบภาพยนตร์ระดับตำนาน จากการแสดงสดโดยวงดุริยางค์symphony orchestra ขนาดใหญ่
เส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่: จากเด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันถึงนักแต่งเพลงชื่อดัง
มอร์ริโคนี่ เกิดในปี ค.ศ. 1928 ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เขาเริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวที่มีความหลงใหลในศิลปะ หลังจากเรียนจบConservatorio di Santa Cecilia, มอร์ริโคนี่ เริ่มต้นอาชีพนักแต่งเพลงอย่างจริงจัง
ผลงานที่สร้างชื่อเสียง: จาก “The Good, the Bad and the Ugly” สู่ “Cinema Paradiso”
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา มอร์ริโคนี่ ได้ฝากผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์ไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวสเป็กแทคิวลา ซึ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
-
The Good, the Bad and the Ugly (1966): ท่วงทำนองอันโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้ “The Ecstasy of Gold” กลายมาเป็นเพลงคลาสสิกที่ได้รับการเล่น cover โดยศิลปินระดับโลกมากมาย
-
Once Upon a Time in America (1984): ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงถึงความโรแมนติก ความโศกเศร้า และความหวังได้อย่างสมบูรณ์แบบ
-
Cinema Paradiso (1988): เพลง “Love Theme” ของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเพลงรักที่ไพเราะและ xúcคนที่สุด
มรดกทางดนตรี: จากรางวัลออสการ์ไปสู่เกียรติยศระดับโลก
- รางวัลออสการ์: มอร์ริโคนี่ ได้รับรางวัลออสการ์ สาขา Best Original Score สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “The Mission” ในปี 1986 และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้มากถึงหกครั้ง
- Grammy Awards: มอร์ริโคนี่ ได้รับรางวัล Grammy Awards รวมทั้งสิ้นห้ารางวัล
จากสเป็กแทคิวลาไปสู่ดนตรีคลาสสิก: การผสมผสานอย่างลงตัว
นอกจากผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์แล้ว มอร์ริโคนี่ ยังได้แต่งเพลงประเภทอื่นๆ อีกด้วย
ประเภทของเพลง | ตัวอย่าง |
---|---|
โอเปร่า | “La Gioconda” |
เพลงสำหรับวงออร์เคสตรา | “Requiem for a Friend” |
คอนเสิร์ต | “Concerto for Trumpet and Orchestra” |
การมาเยือนไทยครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของดนตรีประกอบภาพยนตร์ระดับตำนาน อย่าพลาดการแสดงคอนเสิร์ต “Ennio Morricone: The Final Farewell Tour” ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 25 มกราคม 2024!